Macroeconomics

• การที่ Fed ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อที่ 9.1% ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ทำให้ในช่วงแรกตลาดปรับตัวลง โดยสาเหตุที่ตลาดคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะต่ำกว่าที่ประกาศออกมาเพราะราคาน้ำมันปรับตัวลดลงไปพอสมควรก่อนหน้านี้

• ถ้าดูจากตาราง Meeting Probabilities จะเห็นว่าปัจจุบันนักลงทุนจำนวน 69.1% คาดการณ์ว่าสินเดือนกรกฎาคม Fed จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 75 bps (ปัจจุบันดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 175 bps) ที่ลดลงจากก่อนหน้าการประกาศเงินเฟ้อที่นักลงทุนมากกว่า 80% คาดว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 75 bps โดยในปัจจุบันมีนักลงทุนจำนวนถึง 30.9% ที่คาดว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในระดับ 100 bps ดังนั้นมีความเป็นไปได้ทั้งสองทางว่า Fed อาจจะขึ้น 75 bps หรือ 100 bps ก็ได้ ซึ่งควรรอจับตาดูการประกาศขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในสิ้นเดือนนกรกฎาคมที่น่าจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาด โดยเราเชื่อว่าถ้า Fed ขึ้นดอกเบี้ย 100 bps ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงน่าจะปรับตัวลดลงอีกรอบ แต่น่าจะเป็นจุด Bottom ได้ เพราะ Leading Indicator อย่างเช่น ราคาน้ำมันก็หลุดลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่าเงินเฟ้อใน Q3 จะลดลง

• เงินดอลลาร์ยังคงแข็งต่อเนื่อง โดย DXY ตอนนี้อยู่ที่ระดับ 108.6 แต่ในส่วนของเงินบาทยังคงอ่อนต่อเนื่อง ซึ่งเรามองว่าถ้ายังไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย ก็มีโอกาสได้เห็นเงิบบาทที่ระกับ 38-39 บาทต่อดอลลาร์

• ค่าเงินที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้คือเงินเยนและยูโรที่อ่อนค่าหนักสูงสุดในประวัติศาสตร์กว่า 20 ปี ซึ่งเรามองว่าถ้าเงินเยนและยูโรยังอ่อนค่าต่อไปอีก เช่น เงินเยนขึ้นไปที่ระดับ 140-150 เยนต่อดอลลาร์ หรือ เงินยูโรลดลงต่ำกว่า 0.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโร ทาง Fed น่าจะต้องมีมาตรการช่วยเหลือ อาจเป็นการช่วยเหลือโดยการซื้อ Bond ของญี่ปุ่นและยุโรป
• สำหรับตลาด Cryptocurrency เรามองว่าการ Force Selling จากเหตุการณ์ภายในต่างๆน่าจะหมดไปแล้ว ตอนนี้ให้จับตามอง Macro ซึ่งถ้า Macro เริ่มดีขึ้น ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาด Cryptocurrency

DeFi

• StarkNet ที่เป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ Etheream Layer 2 ประเภท Zk Rollup ที่ก่อตั้งโดยบริษัท StarkWare จากประเทศอิสราเอล โดยบริษัทฯมี Product 2 อย่างประกอบด้วย StarkX และ StarkNet โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทาง StarkNet ได้ประกาศออกเหรียญ $STARK ในเดือนกันยายน 2022 ที่มี Utility เป็น Gas Fee และ Governance ซึ่งเหรียญ $STARK มี Supply ทั้งหมด 1 หมื่นล้านเหรียญ โดยจะแบ่ง 17% ให้กับ Early Invester และ 9% ให้กับ Core Developer ซึ่งเป็นการครอบครองเหรียญในจำนวน 49.9% โดยคนกลุ่มเล็กๆ ซึ่งการกระจุกตัวของเหรียญปริมาณมากขนาดนี้โดยคนกลุ่มเล็กอาจเป็นความเสี่ยงได้ สำหรับในส่วนที่เหลือ 9% จะนำไปแจกเป็น Airdrop ให้กับผู้ใช้งาน DyDx, ImmutableX หรือ DApps อื่นๆบน StarkNet ที่ทำการ Snapshot ไปแล้วในวันที่ 1 มิถุนายน 2022 นอกจากนี้ยังมี Allocation เหลืออีก 8.1% ที่ยังไม่ได้จัดสรร ต้องคอยติดตามว่าในส่วนนี้จะแจกอย่างไร

• เหรียญ Matic ที่ราคาเหรียญปรับตัวขึ้นมากกว่า 100% อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้มี Market Cap ที่ต่ำและยังมีการพาร์ทเนอร์กับบริษัทชื่อดังอย่าง Disney และเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ Nothing สำหรับการใช้งาน Web3 นอกจากนี้ยังมีโปรเจ็กต์มากมายไปเปิดตัวบน Polygon เช่น โปรเจ็กต์ DeFi และ NFT มากกว่า 48 โปรเจ็กต์ที่ย้ายไปจากเชน Terra

• น่าจับตามองกระแส Real World Assets จากโปรเจ็กต์ DeFi ขนาดใหญ่ เช่น MakerDAO ออก Proposal ว่าจะนำ DAI ไปลงทุนใน US treasuries และยังประกาศร่วมมือกับธนาคาร Societe Generale ของประเทศฝรั่งเศสที่จะนำ Household Bond มา Tokenize เป็นเหรียญ OFH เพื่อนำไปค้ำและกู้เหรียญ DAI ได้
• นอกจากนี้ยังมีกระแสการออก Stablecoin ของโปรเจ็กต์เจ้าตลาด DeFi อย่าง Aave ที่ออกเหรียญ GHO และนอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่า Curve อาจจะออก Stablecoin บ้างก็ได้ด้วยความที่เป็น StableSwap อยู่แล้ว ต้องคอยติดตามเพราะน่าจะเป็นผลดีต่อเหรียญ CRV

NFT

• ช่วงนี้มีกระแสการใช้งาน NFT Aggregator อย่างเช่น Genie และ Gem ที่มีข้อดีคือใช้งานง่าย ได้ NFT ราคาถูกและค่าแก๊สไม่แพง แต่มีข้อควรระวังคือเนื่องจากช่วงนี้โปรเจ็กต์ NFT โดน Hack ค่อยข้างเยอะ และเมื่อโปรเจ็กต์ใดโดน Hack ก็จะถูก Blacklist จาก Opensea ที่เป็นเจ้าตลาดที่ครอง Market Volume มากกว่า 80% ทำให้ถ้าโปรเจ็กต์ไหนเข้าข่ายที่ไม่สามารถ List บน Opensea ได้จะทำให้มีสภาพคล่องต่ำมาก ดังนั้นในช่วงนี้ถ้าจะซื้อขาย NFT ควรทำผ่าน Opensea ก่อน