ตลาดยังคง Bullish ตราบใดที่สภาพคล่องยังมา?!
ความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin / S&P 500 และ Global M2 Money Supply กำลังบ่งบอกว่า ตลาดยังสามารถวิ่งได้อยู่!.มันเกี่ยวอะไรกัน? มาดูกันว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น และเราควรจับตามองอะไรต่อจากนี้?
หลังจากที่ BTC ทำ All Time High ไปแล้ว ก็ยังมีหลากหลายเหตุการณ์ที่ดูไม่แน่นอน: ทั้งในด้านเศรษฐกิจโลกที่ยังดูไม่ดี การควบคุมเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา และสภาวะสงครามต่างๆ ทำให้คนเริ่มมีคำถามว่า สินทรัพย์ต่างๆจะยังสามารถวิ่งต่อได้อยู่ไหม หรือทั้งหมดนี้ เป็นการจบรอบเรียบร้อยแล้ว
จนกระทั่งเริ่มมีคนนำเสนอแนวความคิด ความสัมพันธ์ระหว่าง Global M2 Money Supply และกราฟราคาของ Bitcoin ซึ่งสัมพันธ์ไปกับ S&P500 index ด้วย.โดยเฉพาะ Raoul Pal ที่เป็นคนที่หนักแน่นในทฤษฏีนี้
แนวความคิดนี้ว่าด้วยเรื่องของ การที่ Money Supply ในโลกเพิ่มขึ้นหรือลดลง จะหมายความว่า’สภาพคล่อง’ก็เพิ่ม/ลดด้วย และส่งผลโดยตรงต่อเงินที่เข้ามาซื้อสินทรัพย์ในตลาด
กราฟของ M2 Money Supply นี้เอง ดูเหมือนว่าจะนำทิศทางของ Bitcoin อยู่ราวๆ 10 สัปดาห์ ทำให้เราเห็นความเป็นไปได้ของทิศทางของ $BTC ก่อนราคาจะเริ่มขยับไปตาม
กลับกัน ในส่วน TOTAL2 ที่เป็นกราฟรวมตลาดคริปโทไม่รวม $BTC แม้จะแสดงความสัมพันธ์คล้ายคลึงกันในบางช่วง แต่อย่างในช่วงที่ผ่านมาก็ค่อนข้าง Decouple หรือเคลื่อนที่แยกออกจากกันมากกว่าฝั่ง Bitcoin
S&P 500 เองก็มีความสัมพันธ์ที่คล้ายคลึงกัน การขยับตัวมีความเกี่ยวข้องที่คล้ายคลึงกันอย่างชัดเจน ไปพร้อมๆกับ Bitcoin
ในทางหนึ่งเป็นการบ่งบอกว่า Bitcoin เริ่มมีการเคลื่อนที่ไปในทางที่คล้ายคลึงกับ Tradfi แล้ว จากก่อนปี 2020 ที่มีทิศทางการขยับที่มีอิสระต่อกัน
ข้อมูลล่าสุด (กลางปี 2025): M2 โลกเริ่มกลับมาขยับตัวขึ้นอีกครั้ง ถ้าหากความสัมพันธ์ยังตามกันอย่างนี้อยู่ ก็อาจจะหมายความว่ามีโอกาสที่ BTC จะปรับตัวขึ้นไปได้อีกเรื่อยๆต่อจากนี้
1. ปริมาณเงิน (M2) โดยเฉพาะในสหรัฐฯ / ญี่ปุ่น / จีน
2. ท่าทีของ Fed ว่าจะอัด QE อีกมั้ย
3. Macro liquidity flow → เป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อน BTC