ตลาด CME หรือ “Chicago Mercantile Exchange” เป็นตลาดการซื้อขายอนุพันธ์รายใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก ที่มีสินค้าเพื่อการลงทุนหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ, น้ำมัน, ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ, Bitcoin และ Ethereum
การซื้อขาย Bitcoin & Ethereum futures และ options ที่ตลาด CME, การซื้อขายจะเป็นแบบ cash-settled หมายความว่าไม่มี Bitcoin จริงที่จะเปลี่ยนมือเมื่อสัญญาหมดอายุ แต่จะเป็นการชำระด้วยเงินสด (US dollars) แทน
ขอบคุณภาพจาก statista
ในเดือน มิถุนายน ที่ผ่านมาตลาด CME มี Volume การซื้อขายอนุพันธ์ของ Bitcoin อยู่ที่ $38b ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองมาจาก Binance และ OKX แถมตลาด CME เป็นหนึ่งในตลาด Bitcoin Futures ที่มีสถาบันทางการเงินซื้อขายมากที่สุดในโลก ทำให้ตลาดนี้เป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญต่อการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin
ขอบคุณภาพจาก CCData
Gap คือช่วงราคาที่ไม่มีการซื้อขายเกิดขึ้นระหว่างสองช่วงเวลาการซื้อขายที่ต่อเนื่องกัน ทำให้เกิด "ช่องว่าง" ในกราฟราคา Gap สามารถเกิดขึ้นในกราฟ รายนาที, รายชั่วโมง, รายวัน, รายสัปดาห์ หรือ รายเดือน ได้
กรณีของ "Bitcoin CME Gap", เกิดขึ้นเนื่องจากตลาด Bitcoin CME ไม่ได้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน เหมือนกับตลาด Bitcoin ทั่วโลก ตลาด CME ปิดในช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุด แต่ราคา Bitcoin ยังคงเคลื่อนไหวในตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก ทำให้เมื่อตลาด CME เปิดอีกครั้ง ราคา Bitcoin อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากที่ปิดครั้งล่าสุด ทำให้เกิด "Gap" หรือช่องว่างในกราฟราคา
จุดที่มีการเปิด Gap หลายครั้งมักจะเป็นจุดที่มีนัยยะสำคัญต่อราคาของสินทรัพย์นั้น ไม่ว่าจะเป็น โซนแนวรับ แนวต้าน หรือจุดที่ราคามีการกลับตัว, นักลงทุนหลายคนเชื่อว่า Gap จะต้องถูกปิด หรือราคามักจะเคลื่อนไหวกลับมาเติมช่องว่างที่เกิดขึ้น จึงทำให้หลายครั้งบริเวณที่มี Gap จึงเป็นจุดที่มีนัยยะสำคัญ
ตัวอย่างแรกเป็น Gap ของ Bitcoin ระหว่างราคา $32,930 - $34,420 ที่เกิดวันที่ 23 กรกฏาคม 2021 จะเห็นได้ว่า วันที่ 24 มกราคม 2022 ราคามีการทิ้งตัวเพื่อมาปิด Gap พอดี และเป็นจุดต่ำสุดของราคา Bitcoin ก่อนที่จะมีการปรับตัวขึ้นในระยะกลาง
ตัตัวอย่างที่สองเป็น Gap ของ Bitcoin ระหว่างราคา $18,460 - $19,080 ที่เกิดวันที่ 11 ธันวาคม 2020 และเป็นจุดกลับตัวระยะสั้นของ Bitcoin ในวันที่ 30 มิถุนายน 2022 ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมา 2ปี แต่ก็ยังเป็นจุดมีนัยยะสำคัญ
ตัวอย่างที่สามเป็น Gap ของ Bitcoin ระหว่างราคา $19,995 - $20,880 ที่เกิดวันที่ 13 มกราคม 2023 จะเห็นได้ว่าตรงบริเวณที่เปิด Gap เป็นจุดแนวรับสำคัญที่ราคาของ Bitcoin กลับตัวพอดี ก่อนที่จะมีการปรับตัวขึ้นครั้งใหญ่กว่า 60%
หลายครั้งบริเวณที่มีการเปิด Gap มักจะเป็นจุด แนวรับ แนวต้าน ที่สำคัญที่จะทำให้ราคาของ Bitcoin มีการกลับตัว Bitcoin CME Gap จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สามารถใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อขาย Bitcoin ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจุดที่มีการเปิด Gap ก็ไม่ใช้จุดที่มีนัยยะสำคัญเสมอไป จึงควรใช้ควบคู่กับปัจจัยอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
"การปิด Gap" หรือ "Gap Fill" เป็นความเชื่อที่นิยมในหมู่นักลงทุนว่า ราคาของสินทรัพย์มักจะเคลื่อนไหวกลับมาที่ระดับราคาที่เกิด Gap และทำการปิดช่องว่างที่เกิดขึ้น, จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีเหตุผลที่แน่ชัดว่าทำไมราคาถึงมักจะวิ่งกลับมาปิด Gap
หลายคนเชื่อว่า Gap มักจะเป็นจุดจิตวิทยาของนักลงทุน ที่ถ้าหากมีการเปิด Gap อยู่ นักลงทุนจะไม่กล้าซื้อ และขายสินทรัพย์เพื่อมารอซื้อเมื่อราคาลงมาปิด Gap หรือ เกิดจากการที่ Market Maker ต้องการกลับไปเติมสภาพคล่องในจุดที่เป็นช่องว่างของราคา
การ Backtest ครั้งนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ตลาด Bitcoin CME เปิดให้ซื้อขายครั้งแรกในวันที่ 18 ธันวาคม 2017 จนถึง 31 กรกฎาคม 2023 รวมทั้งหมด 1,414 วันทำการ ในกราฟ “BTC1!” บนเว็บไซต์ Tradingview
สถิตินี้มาจากการทำ Backtest Bitcoin CME Gap ที่มีค่าความเบี่ยงเบนมากของราคามากกว่า 1% ใน Timeframe 2ชม, ซึ่ง Timeframe 2ชม เป็นช่วงเวลาที่เล็กที่สุดที่สามารถดูกราฟราคา Bitcoin CME ได้ ในปี 2017 - 2019
จำนวน Gap ทั้งหมดที่ถูกเปิด 455 Gap
จำนวน Gap ที่ถูกปิด(fill) 445 Gap คิดเป็น 97.8%
จำนวน Gap ที่ถูกปิด(fill) และ ปิดบางส่วน(partial fill) 448 Gap คิดเป็น 98.5%
จำนวน Gap ที่ถูกปิดบางส่วน 3 Gap
จำนวน Gap ยังไม่เคยถูกปิดเลย 7 Gap
Gap ที่ใช้เวลาปิดเร็วที่สุดใช้เวลาเพียง 2ชม หรือแท่งเทียนถัดไป ส่วน Gap ที่ใช้เวลาปิดนานที่สุดใช้เวลา 701วัน เป็น Gap ที่เปิดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2017 ที่ราคา $19,485 - $19,265 และปิดเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2020
Gap ที่ราคา $3,150, $3,565, $6,865 และ $7,625 ทั้ง 4จุด ที่ยังไม่เคยถูกปิด และมีแนวโน้มว่าจะไม่ถูกปิด ล้วนเป็น Gap เล็กที่มีช่วงความห่างของราคาไม่เกิน $35 และไม่ถึง 1% ของราคา Bitcoin ณ ตอนนั้น
ตั้งแต่ปี 2017 - 2021 ทุก Gap ที่มีช่องของราคาที่กว้างกว่า $35 ล้วนถูกปิด(fill) หรือ ปิดบางส่วน(partial fill) มีเพียง Gap ที่ราคา $35,180 และ $20,330 เท่านั้นที่มีความกว้างมากกว่า $35 และยังไม่เคยถูกปิด ซึ่งทั้งสอง Gap นี้เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน และยังมีโอกาสกลับไปปิดสูง
ทฤษฎีการปิด Bitcoin CME Gap นั้นมีความแม่นยำสูงถึง 98% จึงเป็นหนึ่งในอินดิเคเตอร์สำคัญที่สามารถใช้วิเคราะห์แนวโน้มราคา Bitcoin ได้ และ จากสถิติจึงพอจะอนุมานได้ว่าถ้าในอนาคตมี Gap ที่มีช่วงความห่างของราคาไม่เกิน $35 และไม่อยู่ในจุดที่เป็นนัยยะสำคัญ ก็มีโอกาสที่ Gap เหล่านั้นจะไม่ถูกปิด ส่วน Gap ที่มีความกว้างมากกว่า $35 มีแนวโน้มที่จะถูกปิดสูง
*สถิติเหล่านี้มาจากการ backtest ใน timeframe 2ชม ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับ timeframe อื่นๆ และอาจจะไม่แม่นยำ 100%
พิจารณาจากราคาของ Bitcoin ปัจจุบันที่อยู่บริเวณ $30,000 ทำให้ Gap ที่โอกาสถูกปิดสูงที่คือ Gap ที่ราคา $20,330 และ $35,180 เพราะเป็น Gap ที่อยู่ใกล้เคียงกับราคา Bitcoin ณ ปัจจุบัน แถมยังมีช่องว่างของราคาที่กว้าง และตรงกับจุดแนวรับแนวต้านที่มีนัยยะสำคัญของ Bitcoin และ Gap ทั้งสองจุดนี้ อาจจะเป็นจุดที่มีการกลับตัวของราคา ได้
ส่วน Gap ที่ราคา $3,150, $3,565, $6,865 และ $7,625 เป็น Gap เล็กที่มีช่องว่างของราคาที่น้อยมาก อีกทั้งยังอยู่ใน Timeframe ที่เล็ก และระยะเวลาผ่านมานานกว่า 3ปี ทางผู้เขียนจึงคิดว่า Gap เหล่านี้ จะเป็น Gap ที่ไม่ถูกปิด และ Gap สุดท้ายที่ราคา $16,940 - $16,955 ที่ถึงแม้จะเป็น Gap ที่อยู่ไม่ห่างจากราคาปัจจุบันของ Bitcoin มากนัก แต่เป็น Gap ที่มีช่องว่างของราคาเพียงแค่ $15 หรือไม่ถึง 0.1% ของราคา Bitcoin ทางผู้เขียนจึงคาดการณ์ว่านี้จะเป็น Gap ที่เป็นไปได้สูงว่าจะไม่ถูกปิด แต่ก็เป็นจุดที่ควรเก็บไว้เฝ้าระวัง
ทฤษฎีการ ปิด Gap เป็นทฤษฎีที่มีความแม่นยำสูง และหลายครั้งสามารถใช้ดูเป็นจุดแนวนับแนวต้าน หรือจุดที่ราคามีโอกาสกลับตัวได้ แต่เป็นทฤษฎีที่ไม่ระบุระยะเวลาทำให้ไม่มีใครรู้ว่า Gap จะถูกปิดเมื่อไหร่ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจึงควรใช้ควบคู่กับทฤษฎี และอินดิเคเตอร์อื่นๆ เพื่อพิจารณาในการซื้อขาย Bitcoin
นักลงทุนสามารถอ่านบทความสถิติ Michael Saylor ซื้อขาย Bitcoin 28 ครั้ง ดอยทุกครั้งหรือไม่ได้ที่ Maichael-Saylor