เมื่อคืนวันที่ 1 พฤษภาคมก็สิ้นสุดการรอคอยสำหรับ Blur ที่ได้ประกาศในสัปดาห์ก่อนว่าจะมีการเปิดตัวอะไรบางอย่างที่จะสั่นสะเทือนวงการ! ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงเพราะ Blur ได้มีเรื่องประกาศด้วยกัน 2 เรื่องคือ
การเปิดตัว Blend ในครั้งนี้จะช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงการลงทุน Blue Chip NFT ที่มูลค่าสูงได้ด้วยจำนวนเงินที่จำกัด และยังทำให้นักลงทุนสามารถบริหารความเสี่ยงในการลงทุนได้ดีมากยิ่งขึ้น ในบทความนี้ผู้เขียนจะเจาะสองประเด็นนี้ให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น
Blend มีชื่อเต็มว่า A peer-to-peer Perpetual Lending Protocol for NFTs โดยแพลตฟอร์มนี้จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถกู้ยืม ETH เพื่อนำไปใช้ซื้อ NFT โดยแพลตฟอร์มลักษณะนี้เราจะเรียกว่า NFTFi หรือ NFT + Finance ซึ่งปัจจุบันมีเจ้าใหญ่อย่าง BendDAO, Paraspace หรือ NFTfi เป็นต้น เปิดให้บริการมานานแล้ว แต่สำหรับ Blend นั้นได้นำข้อดีของแพลตฟอร์มต่างๆมารวมกันในแพลตฟอร์มเดียวซึ่งมีจุดเด่นด้วยกันดังนี้:
ผู้ปล่อยกู้ ETH มีอิสระในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยกู้และจำนวน ETH ที่ต้องการปล่อยโดยอิสระ ซึ่ง Blend ได้มี Incentive Program ให้กับผู้ที่ปล่อยกู้โดยจะให้ Lending Point (ยิ่งได้เยอะยิ่งมีโอกาสได้ $BLUR เยอะ) แก่นักลงทุนที่ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ และ จำนวน ETH ที่สูงเข้าใกล้ Floor ดังนั้นเราจะในกราฟด้านบนซึ่งเป็นตารางการ Offer ของผู้ปล่อยกู้ ETH มีแกน X เป็นจำนวน ETH และแกน Y เป็นอัตราดอกเบี้ยกู้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะกระจุกตัวอยู่ด้านล่างและค่อนไปทางขวา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนกลุ่มนี้เลือกที่จะไม่รับผลตอบแทนจากการปล่อยกู้ แต่เลือกรับ Lending Point เพื่อรับ $BLUR มากกว่า
ส่วนนักลงทุนที่ปล่อยกู้เหนือเส้นแกน X จะยอมได้รับ Lending Point ที่น้อยลง แต่เลือกรับอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจากการปล่อยกู้ ETH มากกว่า ซึ่งเป็นทางเลือกที่แล้วแต่คนจะตัดสินใจว่าจะรับผลตอบแทนแบบไหน และคนที่ยอมรับ Deal นี้ก็จะได้อัตราดอกเบี้ยนี้ไปตลอด
ทำให้ Blend เป็นส่วนผสมระหว่าง NFTfi ที่สามารถกำหนดผลตอบแทนและจำนวน ETH ได้แต่ต้องมีระยะเวลาในการคืน กับ BendDAO ที่ไม่สามารถกำหนดอัตราผลตอบแทน แต่ไม่มีระยะเวลาคืน เข้าด้วยกัน
ในส่วนของการไม่มีวันกำหนดคืนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้มาก่อนใน Peer-to-Peer Lending เนื่องจากเป็นการทำสัญญาระหว่างสองฝ่าย ต่างจาก Peer-to-Pool Lending แบบ BendDAO ที่กู้ ETH จากกองกลางที่มีหลายคนปล่อยกู้
Blend ได้ใช้ระบบที่เรียกว่า Refinancing Auction เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้กู้หรือผู้ให้กู้นั้นมีโอกาสในการ "เปลี่ยนคู่สัญญาใหม่" เช่น
ระบบ Refinancing Auction นี้จะช่วยให้ผู้กู้ ETH ยังกู้ ETH ต่อไปได้ในเรทที่อาจเท่าเดิม และเปิดโอกาสให้ผู้ปล่อยกู้สามารถยกเลิกสัญญากู้ได้ทุกเวลา ระบบนี้ถือว่าเป็นแนวคิดที่น่าสนใจมากและยากที่จะเลียนแบบหากไม่ได้มีระบบวาง Incentive Program ให้คนมาปล่อยกู้ที่ดอกเบี้ย 0% มากมายขนาดนี้
ปัจจุบัน Wrapped Cryptopunks มีราคาขั้นต่ำ (Floor price) อยู่ที่ 55.5 ETH ($101,000) ซึ่งเป็นราคาที่น้อยคนนักจะกล้าลงทุนแม้ว่าจะมั่นใจว่าราคาต่ำมากแล้วก็ตาม แต่ด้วยระบบของ Blend ราคาสามารถวางเงินขั้นต่ำ 3.5 ETH ($6,419) เพื่อเป็นเจ้าของ Cryptopunk ได้แล้ว
หากในอนาคต Cryptopunk ราคาปรับตัวสูงขึ้น เราก็จะได้รับ Upside นี้ไปเต็มจำนวน โดยที่เราไม่จำนวนจะต้องออกเงินเต็มจำนวน Blend จึงเป็นอีกแพลตฟอร์มที่ช่วยลดกำแพงด้านราคาให้กับนักลงทุนรายย่อยให้มีโอกาสในการเข้าถึง NFT ที่มีมูลค่าสูงได้โดยใช้เงินเพียง 4%-6% ของราคาเต็มเท่านั้น โดยแทบไม่มีต้นทุนด้านดอกเบี้ยเพราะมี Incentive Program จาก Blend คอยสนับสนุน
นอกจากการใช้เงินต้นเพียง 6% จะมีประโยชน์กับรายย่อยที่มีเงินลงทุนไม่มากมายแล้ว Blend สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อลดความเสี่ยงหรือเพิ่มความเสี่ยงก็ได้เช่นกัน ยกตัวอย่าง
จากข้อมูลของ Blur พบว่าการซื้อบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่แล้วจะวางเงินดาวน์เพียง 20% ของราคาบ้าน ส่วน 80% นั้นจะกู้ยืมมาจากธนาคาร ไม่ต่างกันกับตลาด Derivative ใน Cryptocurrency ที่ส่วนใหญ่แล้ว Trading Volume มากกว่า 90% มีเพียง 10% เท่านั้นที่เป็น Trading Volume จากตลาด Spot
Blend กำลังจะพลิกโฉมตลาด NFT ให้มีสภาพคล่องที่สูงมากขึ้นจากการสร้างตลาด Derivative ให้กับ NFT โดยสภาพคล่องนั้นเป็นปัญหาหลักสำหรับ NFT มานเนิ่นนาน การมาของ Airdrop Season ของ Blur ที่ช่วยให้มีสภาพคล่องที่ Floor Price ที่สูงมากขึ้น เป็นประตูด่านแรกที่ดีให้กับนักลงทุนรายใหญ่หรือแม้แต่นักลงทุนสถาบัน การต่อ ยอดด้วย Blend ที่เปิดให้ใช้ Leverage ได้จะช่วยให้ตลาด NFT เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดได้อย่างแน่นอน
Oracle Attack เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในวงการ Blockchain โดยรายละเอียดแล้วมันเป็นการควบคุมราคาให้ผิดปกติในชั่วขณะเพื่ออาศัยช่องวางนี้ในการโจมตีหรือ Exploit ระบบเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง เช่น การทำ Flash Loan เงินมาจำนวนหนึ่งแล้วเทใส่ตลาดเพื่อให้ราคาตกชั่วขณะเพื่อหวังให้เกิดการ Liquidation ครั้งใหญ่เพื่อให้ช้อนสินทรัพย์ได้ในราคาถูก เป็นต้น
ในโลกของ NFT ก่อนที่จะมี Blur นั้นตลาดมีสภาพคล่องที่ต่ำมากจนสามารถควบคุมราคาได้ง่าย ทำให้นักลงทุนมีโอกาสโดนบังคับขาย NFT ของตัวเองจากการตั้งใจโจมตีนี้ แต่สำหรับ Blend นั้นจะไม่ทำ Liquidation จากการอ้างอิงราคาจาก Oracle เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะโดนโจมตีได้ง่าย การ Liquidation นั้นจะเกิดขึ้นหากการทำ Dutch Auction ไม่มีคนรับเกิน 30 ชั่วโมง ซึ่งทาง Pacman Co-Founder ของ Blur/Blend กล่าวว่าถ้าถึงจุดนี้ก็อาจจะเกิดหนี้เสียได้ ในส่วนนี้ค่อนข้างเป็นจุดอ่อนสำคัญแต่รายละเอียดใน Documentation มีน้อยมาก ผู้เขียนคาดการณ์ว่าระดับอาจจะมี การเปรียบเทียบ ETH ที่กู้ไปกับราคา Floor ในปัจจุบัน หากใกล้เกินจุดหนึ่งจะทำการ Liquidation โดยโยน NFT ไปขายที่ราคา Floor Price ทันทีเพื่อให้มี ETH คืน
ปัจจุบัน Blend รองรับเพียง 3 Collectionในช่วงเริ่มต้นเท่านั้นซึ่งแต่ละตัวอยู่ใน Range ราคาที่แตกต่างกัน คือ Wrapped Cryptopunk ราคาประมาณ 55 ETH, Azuki ราคา 16.3 ETH และ Milady ราคา 3.5 ETH การกระจายช่วงราคาของ NFT ในการทดลองจะช่วยให้เห็นผลตอบรับชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งอนาคตจะมีเปิด Collection ที่สามารถใช้งานได้มากขึ้น
แบ่งเป็น 3 ฝ่ายหลักๆคือ Borrower, Lender และ Blend
ปัญหาที่ตามมาทีหลังอาจจะเป็นเรื่องการ Refinancing Auction ของ Lender หากพบดีลที่ดีกว่าก็จะปล่อยสัญญาของเราสู่ตลาด เรามีเวลา 6 ชั่วโมงในการคงอัตราดอกเบี้ยเดิมไว้ก่อน Auction หากหลังจากนั้นจะเริ่ม Auction เป็นเวลา 24 ชั่วโมง ในระหว่างนั้นดอกเบี้ยจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อครบ 30 ชั่วโมง หากไม่มีใครรับข้อเสนอก็จะถูกบังคับขาย
ในจุดนี้ผู้เขียนยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไม NFT ตัวนี้ถึงยังไม่มีคนซื้อและปล่อยกู้ในอัตราที่สูงมาก เพราะในทางปฏิบัติทาง Blend จะมีระบบจับคู่ Borrower และ Lender ใหม่ให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งสามารถไปจับคู่กับ Lender ที่คิดดอกเบี้ย 0% ก็ได้ แต่ NFT กลับมีดอกเบี้ยสูงขึ้นเรื่อยๆไปถึง 69.3% ในขณะที่เขียนแล้ว (หากมีอัปเดตจะมาแก้ไขในภายหลัง)
และในบางครั้งที่มีผู้ปล่อยกู้คนอื่นทำ Refinancing Auction เราอาจเสนอตัวเพื่อไปรับดีลนั้นได้ทันทีในหน้า Loans ซึ่งถ้ายังต้องการเรทที่มากกว่านี้ก็รอไปเรื่อยๆ โดยในขณะที่เขียน Milady 7871 ค่อยเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจาก 53.8% ไปที่ 58.4% แล้ว โดยสูงสุดที่ 1,000% ก่อนจะเริ่ม Liquidation
หลังจากที่ได้อ่านขั้นตอนการทำงานของ Blend คงจะเห็นว่ามันยังมีจุดที่น่าสงสัยอยู่บ้างว่าโมเดลนี้จะไปรอดได้หรือไม่ จึงไม่แปลกใจเลยว่าปัจจุบันยังเปิดเพียง 3 Collection เพื่อทดลองก่อน ดังนั้น หัวข้อนี้จะรวมเอาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้กับ Blend
รางวัลใน Season 2 จะแจก 300m $BLUR เป็นอย่างน้อย หรือคิดเป็น 10% โดยกติการอบนี้จะมี Lending Point เพิ่มเข้ามา ซึ่งมีค่าเท่ากับ Bidding Point และ Listing Point ซึ่งการแจก Incentive ในรอบนี้ก็ยัง "เน้นเรื่องการเพิ่มสภาพคล่อง" ให้กับนักลงทุนที่ต้งการกู้ ETH เช่นเดียวกับทุกครั้งเพื่อป้องกัน Wash Trading ที่มาเพียงเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ด้วยระบบแบบนี้
อีกสิ่งหนึ่งที่พิเศษขึ้นมาคือ ETH ที่ใช้ในการ Bidding และ Lending สามารถ "ใช้พร้อมกันได้" แต่ถ้าเราถอน Offer Lending ออกก่อน 24 ชั่วโมง จะโดนปรับ 250 Point
และสุดท้าย Function ไม้ตายของ Blur คือปุ่ม Max Your Loyalty ซึ่งจะทำการ "ยกเลิกการขาย NFT ในกระดานอื่นทั้งหมดนอกจาก Blur เพียง 1 คลิก" ซึ่งถ้าเรารักษา 100% Loyalty ไว้ได้ จะมีโอกาสได้รับ Mythical Care ซึ่งภายในจะมี $BLUR เยอะกว่ากล่อง Uncommon Care Packages ถึง 100 เท่า
โดยสรุปแล้ว การเปิดตัว Blend ครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ไม่ใช่แค่ของ Blur เท่านั้น แต่ยังเป็นของวงการ NFT ทั้งหมดเพราะ Blend ได้เข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องให้รายใหญ่เข้ามาลงทุนได้สะดวก และยังเปิดโอกาสให้รายย่อยสามารถใช้เงินเพียงไม่ถึง 10% ของราคา NFT ก็มี Exposure กับ Blue Chip NFT ได้ เราคาดหวังว่า Blur ที่ยังไม่หยุดพัฒนาแบบนี้จะช่วยส่งเสริมให้วงการ NFT ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนรายใหญ่ที่อาจจะยังไม่กล้าเสี่ยงกับตลาด NFT ที่เล็กเกินไปและไม่มีเครื่องมือทางการเงินที่มาช่วยเหลือในการบริหารความเสี่ยงกล้าที่จะลงทุนมากยิ่งขึ้น
แม้ว่า Opensea Pro จะเกิดขึ้นมาชนกับ Blur โดยตรง แต่ปัจจุบันนี้ Volume การซื้อขายของ Blur ก็ยังคงอยู่ที่ประมาณ 60% ไม่เปลี่ยนแปลง แล้วราคา $BLUR ก็ไม่ได้ร่วงแรงอย่างที่หลายๆคนคิดว่าเหรียญที่ไม่มี Use case สุดท้ายราคาจะดิ่งลงอย่างเดียว การได้เห็นพัฒนาการของ Blur ที่สร้าง Blend เพิ่มขึ้นมาแบบนี้เป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนว่าทีมงานรักใน NFT จริงและคาดหวังให้ตลาด NTF เติบโตขึ้นมากกว่าที่จะใช้ $BLUR เป็น Exit Liquidity ของตัวเอง
หลังจากวันเปิดตัว Blur 180 วัน หรือประมาณวันที่ 13 สิงหาคม 2023 Blur จะเปิดให้ผู้ถือ $BLUR เป็นคนตัดสินว่าจะตั้ง Marketplace Fee, Borrow Fee และ Lender Fee จะเป็นเท่าไหร่ และยังมีเรื่องอื่นๆอย่างเช่นระยะเวลาในการเปิด Auction เป็นต้น ในระหว่างนี้ที่เริ่มต้น Blend ได้ไม่ถึง 1 วันก็อาจจะมีปัญหาระหว่างทางที่ Developer อาจจะต้องปรับจูนกันไปก่อน แต่เรามองว่า Blur มีจุดแข็งที่ยังไม่มีใครทำได้ และทีมที่แข็งแกร่งจาก Product ที่เปิดตัวออกมาครับ