นอกจาก ETF ที่แสดงให้เห็นการยอมรับเหรียญใหญ่ๆ อย่าง Bitcoin และ Ethereum แล้ว
ล่าสุดสหรัฐฯ เตรียมปลดล็อกครั้งใหญ่ให้กับ Stablecoin ด้วยกฎหมายใหม่ชื่อ “GENIUS Act”
นี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดของดอลลาร์ในโลกคริปโต เพราะกฎหมายนี้จะกฎระเบียบของ Stablecoin ให้ชัดเจน ลดความคลุมเครือที่เคยเป็นจุดอ่อน และอาจทำให้ตลาดกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง
ไปดูรายละเอียดที่สำคัญกัน 👇
จุดประสงค์หลักนั้นเพื่อ “คุ้มครองผู้บริโภค” จากการหลุด Peg ของ Stablecoin เหมือนในเคสของ Luna
นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความโปร่งใสใน Reserve ของ Stablecoin
เพื่อให้ผู้ใช้นั้นมั่นใจว่าสิ่งที่ใช้นั้นมีสินทรัพย์รองรับอยู่จริง
Stablecoin ต้องถูก Backed “100%” ด้วยเงินสด หรือสินทรัพย์เทียบเท่าเงินสด
✅ ก็คือเงินสด, พันธบัตรระยะสั้น หรือ เงินฝาก เท่านั้น
นอกจากนี้ยังต้อง:
✅ มีการเปิดเผยข้อมูล Reserve ทุกเดือน
✅ มีการ Audit ทุกปี หาก Mcap เกิน $50B
ไม่เข้าเกณฑ์นี้จะไม่ถูกรองรับเป็น Stablecoin ❌
เฉพาะหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น อาทิ
โดยองค์กรเหล่านี้ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์การต่อต้านการฟอกเงิน (AML) และข้อกำหนดการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้ผู้บริโภคและป้องกัน การใช้ Stablecoin ในทางที่ผิดกฎหมาย
ในกรณีที่ผู้ออกเหรียญเกิดการล้มละลายหรือเกิดความเสียหายรุนแรง
GENIUS Act จะการันตีว่าผู้ถือจะได้เงินคืนก่อนเป็นอันดับแรก 👍
นอกจากนี้ Issuer ยังต้องสามารถ Freeze และ Burn เหรียญได้ในทันทีอีกด้วยเพื่อเข้ายับยั้ง ธุรกรรมต่างๆ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
สิ่งนี้จะช่วยลดความกังวลของ Holder ไปได้อย่างมาก
GENIUS Act คือการผลักดันให้ "USD Digital" กลายเป็นเจ้าตลาด Stablecoin
เหมือนที่ USD เป็นเจ้าตลาดในโลกการเงินดั้งเดิม
✅ สหรัฐกำลัง “แสดงจุดยืน” ว่ายอมรับและพร้อมผลักดันคริปโตแล้ว
✅ ถือเป็น Bullish Factor กับทั้งตลาด
คริปโตมีจุดเด่นเรื่องความไร้ศูนย์กลางและเป็นนิรนามของ User
การดึง Stablecoin ที่ถูกใช้ทั่วโลกไปอยู่ภายใต้กฎหมาย อาจทำให้แพลตฟอร์มต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเริ่มดำเนินการ KYC กับ User เพื่อที่จะดำเนินงานต่อไปได้
👉 DeFi อาจกำลังถูกบังคับให้เป็น CeFi ซึ่งนี่ขัดกับแนวคิดดั้งเดิมของคริปโตฯ
ในตอนนี้ GENIUS Act กำลังอยู่ในขั้นตอนการลงมติของวุฒิสภา และถ้าหากผ่านมือของประธานาธิบดีเมื่อไหร่ก็จะเป็นอันเสร็จสิ้น
ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะจบในเดือนสิงหาคมนี้
ถ้าผ่าน = Stablecoin ถูกกฎหมายเต็มตัวในสหรัฐ
📌 ตลาด Stablecoin จะมั่นคงขึ้น
📌 เงินไหลเข้า Crypto มากขึ้น
📌 ความเสี่ยงจากเหรียญ Stablecoin เถื่อนลดลง
📌 DeFi อาจถูกกดดันให้ทำ KYC มากขึ้น → ความเป็นนิรนามอาจหายไป
สุดท้ายแล้ว…
กฎหมายนี้จะทำให้ตลาด Bull กลับมา?หรือจะทำให้ DeFi เสื่อมมนต์ขลัง?