Bitcoin มีการเคลื่อนไหวของราคาที่แกว่งไปมาอย่างรวดเร็วและไม่สามารถคาดการณ์ได้เสมอมา แต่หลายครั้งที่ผ่านมาผู้คนต่างสังเกตเห็นว่าราคา Bitcoin มักจะมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับลดลงในเดือนกันยายน
เพราะอะไรเดือนกันยายนถึงเป็นเดือนที่ Bitcoin มักจะร่วง ปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของการร่วงของราคา Bitcoin ในเดือนนี้ และเดือนกันยายนของปีนี้ ราคา Bitcoin จะร่วงไหม ไปหาคำตอบในบทความนี้กัน
สถิติราคาของ Bitcoin ย้อนหลังใน 12ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2010 ถึงปี 2022 ได้ปรับตัวลดลงในเดือนกันยายน ถึง 10 ครั้ง จากทั้งหมด 12 ครั้ง โดยลดลงมากที่สุดกว่า -40.56% ในปี 2011 และลดน้อยที่สุด -2.73% ในปี 2022 โดยราคาจะลดลงเฉลี่ยที่ -7.5%
ขอบคุณภาพจาก Into the cryptoverse
ส่วนราคาของ Ethereum ย้อนหลัง 8 ปี ตั้งแต่ปี 2015 ถึงปี 2022 นั้นปรับตัวลดลงในกันยายน ทั้งหมด 6 ครั้ง จาก 8 ครั้ง โดยลดลงมากที่สุดกว่า -45.71% ในปี 2015 และลดน้อยที่สุด -12.41% ในปี 2021 โดยราคาจะลดลงเฉลี่ยที่ -13.8%
ขอบคุณภาพจาก Into the cryptoverse
จากสถิติจะเห็นได้ชัดเลยว่าเดือนกันยายนของทุกปีจะเป็นเดือนที่ราคา Bitcoin และ Ethereum ปรับตัวลงบ่อยที่สุด ส่วนเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นเดือนที่ปรับตัวขึ้นบ่อยที่สุด
นักวิเคราห์หลายคนกล่าวว่าสิ่งนี้คือ “September Effect” ที่สินทรัพย์ทั่วโลกนั้นปรับตัวลดลงในเดือนกันยายน นั้นอาจจะมาจากการที่กองทุนปรับสมดุล (Rebalance) หรือ ขายสินทรัพย์ที่มีเพื่อปรับพอร์ตการลงทุนก่อนที่ที่จะเข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี และอาจจะมีเรื่องในการขายเพื่อสรุปบัญชี และเตรียมจ่ายภาษี
จริงๆแล้วไม่ใช่เพียง Bitcoin ที่ร่วงในเดือนกันยายนแต่ ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐอย่าง Dow Jones ก็ได้ปรับตัวปรับตัวลดลงในเดือนกันยายนเช่นเดียวกัน สถิติตั้งแต่ปี 1950 จนถึงปี 2022 DJI ได้ปรับตัวลดลง 45 ครั้ง จาก 73 ครั้ง ซึ่งในหลายๆครั้งราคาของ Bitcoin มักจะปรับตัวลดลงตามดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ
นอกจากปัจจัยดังกล่าวยังมีเรื่องของจิตวิทยาตลาดเข้ามาเกี่ยวอีกด้วย เพราะถ้าหากนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาจะลงในเดือนกันยายน ก็อาจจะทำให้นักลงทุนเหล่านั้นเทขายสินทรัพย์ออกมาก่อน และไม่อยากลงทุนในช่วงเดือนนี้
เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา Bitcoin Spot ETF ของสถาบันต่างๆไม่ถูกอนุมัติในในรอบแรกและเลื่อนไปพิจารณาในรอบถัดไป ทำให้ราคาของ Bitcoin ได้ปรับตัวลงมาหลังจากที่ขึ้นไปรับข่าวดีเรื่องที่ Grayscale ชนะคดีฟ้องร้องต่อ SEC เกี่ยวกับการยื่นขอ ETF ของ Bitcoin
วันที่ 13 กันยายน Exchange FTX และ Alameda Research ถูกศาลจะอนุมัติให้ทยอยขายสินทรัพย์ ยกเว้น Bitcoin ( BTC ), Ethereum ( ETH ) และ “โทเค็นในเครือภายในบางส่วน”เพื่อนำมาใช้หนี้ โดยสินทรัพย์ทั้งหมดมีมูลค่ารวมประมาณ $3.4b โดยจะสามารถขายได้สัปดาห์ละ $50 - $200M
ขอบคุณภาพจาก Messari
ถ้าหาก FTX ได้เริ่มทยอยขายสินทรัพย์ก็จะทำให้มีแรงเทขายจำนวนมหาศาลที่เข้ามาสู่ตลาด ยังไม่นับรวมความกังวลของนักลงทุนอื่นๆ ที่อาจจะทำการขายสินทรัพย์ที่มีอยู่ออกมาอีกด้วย เหรียญที่จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษที่ FTX ถือเยอะและจะส่งผลต่อราคาในตลาดคือเหรียญ SOL, APT, Doge, TRX และ Matic
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ หรือ DXY ได้ปรับตัวเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม ทำให้กดดันราคา Bitcoin อย่างมาก ซึ่งตามหลักแล้วถ้าหาก DXY ปรับตัวขึ้นสินทรัพย์อย่างอื่นจะปรับตัวลง จะเห็นได้เลยว่าราคาของ ทองคำ ตลาดหุ้นสหรัฐ และ บิทคอยน์ ได้ปรับตัวลงตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม และดัชนีดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณภาพจาก Messari
Stablecoin บน Crypto Exchange ส่วนใหญ่มีการไหลออกของเงินอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงเดือน กรกฎาคม และได้ไหลออกอย่างรวดเร็วในช่วงเดือนกันยายนนี้ การที่เงินไหลออกแบบนี้แสดงให้เห็นว่าในช่วงเดือนนี้จะมีกำลังซื้อที่น้อยลง ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงได้
ขอบคุณภาพจาก Nansen
ค่า CPI หรือ ดัชนีราคาผู้บริโภค ที่เป็นค่าที่ใช้เป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อได้ออกมาอยู่ที่ 3.7% ในวันที่ 13กันยายน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 3.6% การที่ค่า CPI ออกมาสูงกว่าคาดการณ์อาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐอาจจะต้องเข้มงวดในการขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อราคาของสินทรัพย์เสียงโดยเฉพาะ Bitcoin
ขอบคุณรูปจาก Investing.com
จากสถิติที่ผ่านมาทำให้มีแนวโน้มสูงที่เดือนกันยายนนี้ราคาของ Bitcoin จะปรับตัวลดลง อีกทั้งเดือนนี้ยังมีปัจจัยลบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Bitcoin ETF ถูกเลื่อน, FTX เทขายสินทรัพย์, DXY พุ่งขึ้น, เงินไหลออก และ เงินเฟ้อสูงกว่าคาด ทำให้เดือนนี้เป็นเดือนที่อาจจะไม่ดีนักในการลงทุน Bitcoin
ทั้งนี้ทั้งนั้นราคาของ Bitcoin ในเดือนนี้ก็อาจจะไม่ได้ปรับตัวลงก็เป็นได้ ซึ่งถ้าหากนักลงทุนมีแผนอยู่แล้วก็ควรยึดมั่นในแผนการของตนเอง โดยอาจจะใช้ข้อมูลนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่เอาไว้จับตาดูเพิ่มเติม ส่วนนักลงทุนคนไหนที่สนใจที่จะเก็บของ เดือนนี้ก็นับเป็นเดือนที่ดีในการเข้าซื้อหรือ DCA
