Bitcoin ทำราคาตกลงมาประมาณ ~10% ในปัจจุบัน โดยถ้าหากเราอนุมานว่าราคาบริเวณ $123,500 เป็นจุด Top ของ Cycle นี้แล้ว ก็มีความเป็นไปได้อยู่ในแง่ของระยะเวลาของ Cycle
จาก Low Cycle สู่ Top Cycle ตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 1,030 วัน ซึ่งสอดคล้องกับ 2 Cycle ก่อนหน้านี้ที่มีระยะเวลาจาก Low > Top ประมาณ 1,060 วัน
หากดูจากอัตราส่วนการกำไรขาดทุนแล้วในปัจจุบันเป็นบริเวณที่เข้าสู่ยอดของการทำกำไรสูงสุดแล้วและมีโอกาสจะพักตัวลงซึ่งเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วใน Cycle นี้
🔴 มีความน่าจะเป็นสูงกว่าที่จะย่อตัวมากกว่าจะขึ้นต่อ
อีก 1 Metric ที่บอกว่าเรามีโอกาสเข้าสู่ช่วง Late Cycle แล้วคือปริมาณการ Take Profit ของนักลงทุนระยะยาวที่ในอดีตเคยเป็นตัวชี้วัดหลัก ที่หากมีการขายจากนักลงทุนระยะยาวที่สูง = ตลาด Top แล้ว
🔴 ซึ่งในปัจจุบันนั้นปริมาณการทำกำไรของนักลงทุนระยะยาวก็สูงกว่า Cycle ก่อนหน้าเรียบร้อยแล้ว
ในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีนักลงทุนระยะยาวเทขายมาก แต่ตลาดไม่ได้มีการปรับตัวลดลงเพราะ Demand จากฝั่ง Spot ETF นั้นมีมหาศาลมากๆ และคอยพยุงราคาตลอด
แต่ในช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าแรงขายจะยังคงสูงอยู่ แต่แรงซื้อเฉลี่ยจาก Spot ETF นั้นลดลงอย่างมาก โดยเฉลี่ย 7 วันอยู่ที่ ~2,500 BTC เท่านั้น กลับกันแรงขายยังเฉลี่ยอยู่ถึง ~4,000 BTC ต่อวัน
🔴 ทำให้ในระยะสั้นอาจปรับตัวลงต่อได้
นอกจากฝั่ง Spot ที่อ่อนแรงลงแล้ว ช่วงที่ตลาดย่อลง Futures ก็แย่ไม่แพ้กัน
Open Interest ของตลาด Future ลดลงกว่า $2B ในช่วงที่ตลาดลง หลังจากที่มีฝั่ง Long โดน Liquidate จำนวนมาก
🟡 ซึ่งการล้างขนาดนี้แม้จะทำให้ตลาดดูซึมลงไปแต่ก็มีผลดีอยู่เพราะทำให้ ตลาด Cooldown ลงมาและเสถียรมากขึ้น
ฝั่ง Option นั่นเป็นเหมือนปัจจัยหลักของการย่อของตลาดเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนหลังจากมีสัญญามูลค่ากว่า $22,000B หมดอายุ
จากตัว Implied Volatility แล้ว เราจะเห็นการ Build Up Option ในช่วงก่อน FOMC (ประกาศลดดอกเบี้ยของ FED) และก็มีการย่อตัวลงมา แต่หลังจากนั้นก็มีการ Spike ขึ้นอีกครั้งหนึ่งหลังจากการเทขายรุนแรงช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว
สัดส่วนโดยมากของ Option เหล่านั้นคือสัญญา Put หรือการมองลง ไม่ว่าจะเป็นการลดความเสี่ยงหรือการเก็งกำไรก็ตาม
Premium ของสัญญา Put นั้นช่วงที่ตลาดเทลงมา Premium แพงกว่าสัญญามองขึ้นถึง 17% ซึ่งแสดงให้เห็นถึง Demand ที่สูงมากๆ และเป็นการเตรียมรับมือกับการร่วงลงของตลาดอย่างเห็นได้ชัด
Indicator นี้ก็จะช่วยยืนยันว่า Volume ของฝั่ง Option Put นั้นสูงกว่า Call จริงๆ และมีความสอดคล้องกับ Indicator ก่อนหน้าว่าตลาดมีการป้องกันความเสี่ยงขาลงที่มาก และกังวลเกี่ยวกับการลงต่อในระยะสั้น
🟡 ทั้งนี้ในปัจจุบัน Option มูลค่ามหาศาลหมดอายุ แล้วความผันผวนอาจจะลดลงเพราะต้องมีการ Build-Up ของ Open Interest อีกครั้งในช่วงเดือนข้างหน้านี้ ทำให้ปัจจัยหลักจะไปตกอยู่กับฝั่ง Spot และ Future มากกว่าว่าจะกำหนดทิศทางตลาดอย่างไร
สุดท้ายนี้ถ้าเราดูที่ตัวต้นทุนนักลงทุนระยะสั้นที่ $111,500 แม้ว่าช่วงที่ตลาดย่อก่อนหน้านี้ราคลาจะลงไปต่ำกว่าบริเวณดังกล่าว แต่ปัจจุบันก็กลับขึ้นมาได้แล้ว
ต้องจับตาดูต่อว่าราคาจะยืนต่อบริเวณนี้ได้หรือไม่ เพราะหากย่อลงไปต่ำกว่าแนวรับนี้มากๆ อาจทำให้เกิดการบังคับขายต่อนักลงทุนกลุ่มนี้และดันราคาลงต่อได้
🔴 Cycle เข้าสู่ช่วงอ่อนแรง:
ปัจจัยกดดันระยะสั้น ⚠️:
แนวรับชี้ขาด 📌:
ทั้งนี้การลงทุนหรือการเข้าซื้อนั้นควรจะใช้ปัจจัยรวมถึงแนวทางอื่นๆ ในการวิเคราะห์ประกอบด้วย เพื่อการประเมินตลาดได้อย่างครบถ้วนและรอบด้านมากยิ่งขึ้น ข้อมูล On-Chain เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ตลาดเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก Glassnode